รีวิว Luis and The Aliens (2018) หลุยส์ตัวแสบ กับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน

แอนิเมชันผจญภัยจากเยอรมนีสุดป่วน ที่จับคู่เด็กชายขี้เหงากับแก๊งเอเลี่ยนสามตัวสุดกวน จนกลายเป็นเรื่องราวของมิตรภาพ ความเข้าใจ และเสียงหัวเราะที่อบอุ่นเหนือความคาดหมาย

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ชื่อไทย: หลุยส์ตัวแสบ กับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน
  • ชื่ออังกฤษ: Luis and The Aliens
  • ผู้กำกับ: Christoph Lauenstein, Wolfgang Lauenstein, Sean McCormack
  • ให้เสียงโดย: Callum Maloney (Luis), Dermot Magennis (Armin, Mog, Nag) ฯลฯ
  • แนวภาพยนตร์: แอนิเมชัน / ผจญภัย / คอมเมดี้ / ครอบครัว
  • ปีที่ฉาย: 2018
  • คะแนน IMDb: 5.2 / 10 (ดูที่ IMDb)

เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)

หลุยส์ เด็กชายวัย 12 ปี ผู้โดดเดี่ยวเพราะพ่อของเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้คลั่งไคล้เรื่องเอเลี่ยนจนไม่มีเวลาให้ลูก วันหนึ่งหลุยส์ได้พบ “สามเอเลี่ยนสุดป่วน” – Wabo, Nag และ Mog ที่เผลอตกมายังโลกเพราะกำลังดูรายการขายของทางโทรทัศน์!
ทั้งสามอยากได้เครื่องนวดไฟฟ้า แต่กลับสร้างเรื่องราวอลหม่านให้หลุยส์ต้องซ่อนพวกมันจากทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยลับที่กำลังตามล่าหลักฐานชีวิตต่างดาวอยู่ใกล้ ๆ บ้านเขา!


สปอยล์เนื้อเรื่องแบบเต็ม

หลังหลุยส์พาเอเลี่ยนทั้งสามมาหลบในบ้าน เขาค่อย ๆ รู้ว่าพวกมันมีนิสัยต่างจากที่มนุษย์คิด – ขี้เล่น ชอบขนม และเข้าใจเรื่อง “มิตรภาพ” ดีกว่าผู้ใหญ่หลายคน ขณะเดียวกันพ่อของหลุยส์กำลังพยายามพิสูจน์ว่ามีเอเลี่ยนจริง แต่ไม่รู้เลยว่ามันอยู่ในบ้านตัวเอง!

เมื่อหน่วยลับ UFO เริ่มสงสัยว่าหลุยส์มีข้อมูลบางอย่าง พวกเขาจับตาอย่างใกล้ชิด จน Wabo กับ เพื่อน ต้องช่วยปกป้องหลุยส์ โดยแปลงร่างเป็นมนุษย์ (ด้วยเทคโนโลยีรูปร่างยืดหยุ่น) แต่กลับสร้างความป่วนหนักกว่าเดิม ทั้งการปลอมตัวเข้าโรงเรียน และทำให้ครูเข้าใจผิดว่ามี “แฝดประหลาด”

ไคลแมกซ์เกิดขึ้นเมื่อพ่อของหลุยส์ถูกหน่วย UFO จับตัวไป เพราะเชื่อว่าเขาช่วยเหลือเอเลี่ยน หลุยส์จึงร่วมมือกับทั้งสามตัววางแผนบุกศูนย์บัญชาการลับ เพื่อช่วยพ่อออกมา และเปิดโปงว่าพวกเขาไม่ได้มารุกรานโลก แต่เพียงแค่ “อยากเป็นเพื่อนกับมนุษย์” เท่านั้น

หนังจบลงด้วยภาพอบอุ่น – หลุยส์ได้คืนดีกับพ่อ ทุกคนยอมรับความแตกต่างของกัน และ Wabo Nag กับ Mog ก็ได้กลับบ้าน โดยสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมอีก ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กชายที่ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป


บทวิจารณ์

จุดแข็ง:

  • เรื่องราวมีหัวใจแห่งมิตรภาพ และพูดถึง “การยอมรับความแตกต่าง” อย่างอบอุ่น เข้าใจง่ายสำหรับเด็ก
  • ดีไซน์เอเลี่ยนน่ารักและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสีและการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเจลาติน
  • เสียงพากย์ (โดย Dermot Magennis และ Callum Maloney) ช่วยเติมอารมณ์ขันได้ดี แม้บทพูดจะเรียบง่าย

จุดอ่อน:

  • โครงเรื่องค่อนข้างตามสูตร (เด็กชายโดดเดี่ยว – เจอสิ่งประหลาด – มิตรภาพ – หน่วยลับ – จบแบบอบอุ่น)
  • แอนิเมชันคุณภาพปานกลางเมื่อเทียบกับค่ายใหญ่ อย่าง Pixar หรือ DreamWorks แต่ยังมีเสน่ห์ในแบบ low budget ยุโรป

โดยรวม Luis and The Aliens เป็นแอนิเมชันสำหรับครอบครัวที่เน้นความอบอุ่นและมุกเบา ๆ ให้เด็กหัวเราะและผู้ใหญ่ยิ้ม แม้จะไม่ได้หวือหวา แต่ความตั้งใจในการเล่าเรื่อง “ต่างแต่เข้าใจได้” ทำให้หนังเรื่องนี้น่ารักและดูเพลินกว่าที่คาดไว้


ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube


สรุป

Luis and The Aliens (2018) คือแอนิเมชันแนว feel-good ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและเสียงหัวเราะ เหมาะสำหรับดูพร้อมครอบครัวหรือเด็กวัยประถม มีสาระสอดแทรกเรื่อง “ความเข้าใจในคนแปลกหน้า” และ “ความรักของพ่อ-ลูก” แม้ภาพจะไม่หวือหวา แต่หัวใจของเรื่องเต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่นที่ชวนยิ้ม.

Author: wanta

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *